ปกิณกะพระเครื่อง / แล่ม
จันท์พิศาโล
--------------------xxx----------------------
พระกริ่งท่านเจ้าคุณศรีฯ (สนธิ์) ปี 2486
พิมพ์ทรงหอยสังข์ / หม้อน้ำมนต์
ท่านเจ้าคุณศรีฯ
(สนธิ์) วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร นามเดิม “สนธิ์ พงศ์กระวี” เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม 2446 ณ ต.บ้านป่าหวาย อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี อายุ 11 ขวบ โยมมารดาได้นำไปฝากไว้กับ พระภิกษุบุญ
ซึ่งเป็นญาติกัน ที่วัดสุทัศนเทพวราราม คณะ 15 เพื่อศึกษาอักขระสมัยฝ่ายบาลี
คัมภีร์สนธิ คัมภีร์นาม
ต่อมาเมื่ออายุ
13 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร และได้ศึกษาวิชาต่อไปตามปกติ จนถึงเดือนเมษายน
พ.ศ.2459 ได้ย้ายไปอยู่ที่วัดกลางบางแก้ว อ.นครไชยศรี จ.นครปฐม ในความปกครองของ ท่านเจ้าคุณ พระพุทธวิถีนายก
(หลวงปู่บุญ) จนถึง พ.ศ.2460 จึงได้ย้ายกลับมาอยู่ที่วัดสุทัศนฯ ตามเดิม
พ.ศ.2466 ได้เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมี สมเด็จพระสังฆราช
(แพ ติสฺสเทโว) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นที่
“พระพรหมมุนี” เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับนามฉายาว่า "ยติธโร”
ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนจนสอบเปรียญธรรมได้
4 ประโยค พร้อมทั้งได้รับสมณศักดิ์เป็น “พระครูธรรมรักขิต” ฐานานุกรมใน
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (แพ) พร้อมกับเป็นเจ้าคณะ 13
และได้เลื่อนสมณศักดิ์จาก
พระครูธรรมรักขิต เป็น พระครูวิจารณ์โกศล,
พระครูวิจิตร์สังฆการ และพระครูวินัยธร
ตามลำดับ
พ.ศ. 2470
สอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค พ.ศ. 2474
สอบได้นักธรรมเอก และเปรียญธรรมเอก 7 ประโยค
หลังจากนั้นได้หยุดเข้าสอบประโยคต่อๆ ไป
แต่ยังคงศึกษาหาความรู้ในพระไตรปิฎกอยู่เสมอ
มิได้ว่างเว้น รวมทั้งศึกษาในศาสตร์ต่างๆ
อีกด้วย อาทิ วิชาแพทย์แผนโบราณ จนสามารถประกอบยาแก้โรคต่างๆ ได้หลายขนาน เพื่อใช้บำบัดโรคภัยที่มีผู้มาขอรับการรักษา
โดยมิได้คิดมูลค่าแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ท่านยังศึกษาวิชาโหราศาสตร์
จนมีความรู้ความสามารถด้านนี้อย่างแตกฉาน
รวมทั้งได้ศึกษาวิชาไสยศาสตร์ การใช้เวทมนตร์คาถา ต่างๆ อีกด้วย
วันที่ 1
มีนาคม 2481 ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะที่ "พระศรีสัจจญาณมุนี" รูปแรกในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
วันที่ 8
ธันวาคม 2493 ท่านได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์ จากพระราชาคณะสามัญ
ขึ้นเป็นพระราชาคณะเสมอชั้นราช ที่ “พระมงคลราชมุนี”
ท่านได้ปฏิบัติภารกิจในทุกด้านอย่างไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยากลำบากแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีเวลาพักผ่อนน้อย จนร่างกายทรุดโทรมลงเรื่อยๆ อีกทั้งยังอาพาธด้วยวัณโรค จนสุดที่นายแพทย์จะเยียวยาไหว
ในวันคืนวันที่
16 มกราคม 2495 เวลา 21.20 น. ท่านได้ถึงแก่มรณภาพลงด้วยอาการสงบ สิริรวมอายุ 49 ปี พรรษา 29
ตลอดเวลาที่ท่านได้เป็นพระฐานานุกรมใน สมเด็จพระสังฆราช (แพ) และได้ปรนนิบัติรับใช้ พระอุปัชฌาย์ของท่าน เจ้าประคุณสมเด็จ ทรงเมตตาประสาทศิลปวิทยาการต่างๆ
โดยได้ประทานตำราและพิธีกรรม การสร้างพระพุทธรูป,
พระกริ่ง พระชัยวัฒน์ รวมทั้งตำราการลงเครื่องรางของขลังต่างๆ จนหมดสิ้น
เมื่อสิ้นสมัยสมเด็จพระอุปัชฌาย์แล้ว
ท่านได้สืบเนื่องการปฏิบัติพิธีกรรมต่างๆ มิได้ขาดตกบกพร่องแต่อย่างใด
-----------------xxx----------------
เมื่อปี 2486 ท่านเจ้าคุณศรีฯ (สนธิ์) ได้นำชนวนพระกริ่งหน้าอินเดีย ปี 2482 ที่ ท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) สร้างขึ้น มาสร้างพระกริ่ง โดยใช้วิธีหล่อแบบโบราณ พระกริ่ง ชุดนี้มี 3 พิมพ์ ได้แก่
พิมพ์ทรงหอยสังข์, พิมพ์หม้อน้ำมนต์ใหญ่, และพิมพ์หม้อน้ำมนต์เล็ก ทั้ง 3 พิมพ์นี้มีลักษณะของพิมพ์ทรงองค์พระ, พระพักตร์ และฐานบัว เหมือนกัน ต่างกันที่หอยสังข์ และหม้อน้ำมนต์ใหญ่ / เล็ก
พระชุดนี้มีจำนวนสร้างน้อย เพียงพิมพ์ละ 52 องค์ (หล่อพิมพ์ละ 2 ช่อ ช่อละ 26 องค์) รวม 3 พิมพ์ 156 องค์ ทุกองค์เจาะรูอุดกริ่งใต้ฐาน ราคาเช่าหาใน พ.ศ.๒๕๖๓ องค์ละ หลักหมื่นกลางถึงหลักหมื่นปลาย พระกริ่งทั้ง
3 องค์นี้ สภาพสวยสมบูรณ์ เป็นพระแท้ดูง่าย ถือเป็น
“พระองค์ครู” ได้เลย เป็นพระกริ่งอีกรุ่นหนึ่งของ ท่านเจ้าคุณศรีฯ (สนธิ์) ที่น่าเก็บสะสมมาก นอกจากสนนราคาไม่สูงมาก และอายุการสร้างนานถึง 77 ปีแล้ว
ยังเป็นพระกริ่งที่มีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ และมีประสบการณ์เด่นดังทุกด้าน อีกด้วย
(ขอขอบพระคุณ ข้อมูลและภาพจาก เบนซ์
ทวีทรัพย์
ชมรมพระเครื่องมรดกไทย ชั้น 3
ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน)
------------------xxx----------------