เที่ยวเส้นทางเขาชีจรรย์ – วัดญานสังวราราม พุทธเอกลักษณ์แห่งเมืองพัทยา

22 กุมภาพันธ์ 2562 ยอดผู้ชม 5757 ครั้ง

พัทยา ถือได้เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับหนึ่งในภาคตะวันออกของประเทศไทย ที่ครองใจนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เพราะเมืองพัทยามีครบทุกอย่าง ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นแนวรักสงบนั่งนอนชิลๆริมชายหาดฟังเสียงคลื่น แนวผจญภัย ปีนเขา ขับโกคาร์ท กิจกรรมแอดแวนเจอร์สุดมันส์ หรือจะแนวบันเทิง เมืองพัทยาก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับไหล สำหรับทริปนี้ “สมาคมฯชวนชิล” จะพาไปเที่ยวเส้นทางสายบุญ เขาชีจรรย์ –วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ชมความงามความล้ำค่าทางพระพุทธศาสนาที่ถูกขนานนามว่าเป็นพุทธเอกลักษณ์แห่งเมืองพัทยา


พระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์


“เขาชีจรรย์” ภูผาสูงสง่าแกะสลักลวดลายเส้นพระพุทธรูปในลักษณะพระพุทธฉายที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อเป็นพระพุทธรูปประจำรัชกาลที่ 9 พุทธศิลป์ประทับนั่งปางมารวิชัยเลียนแบบพระพุทธนวราชบพิตรศิลปะสุโขทัยผสมล้านนา มีความสูง 109 เมตร น้อมเกล้าถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาส ทรงครองสิริราชสมบัติปีที่ 50 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช



ตามประวัติการจัดสร้าง สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเสียดายเขาชีจรรย์ที่มีภูมิทัศน์ยิ่งใหญ่สง่างามตามธรรมชาติ แต่กำลังถูกระเบิดทำลาย จึงทรงดำริที่จะอนุรักษ์เขาชีจรรย์ให้คงชื่ออยู่คู่กับเขาชีโอน ด้วยการสร้างพระพุทธรูปแกะสลัก บนหน้าผาเขาชีจรรย์ให้เป็นปูชนียสถานสำคัญทางพระพุทธศาสนา



โดยพระบาทสมเด็จปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตพระราชทานนามพระพุทธรูปว่า "พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา"มีความหมายว่า "พระพุทธเจ้าทรงเป็นศาสดาที่รุ่งเรื่องสว่างประเสริฐ ดุจดังมหาวชิระ" และทรงเสด็จฯไปทรงประกอบพิธีเบิกพระเนตรและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่พระอุระของพระพุทธรูป เพื่อให้เกิดเป็นสิริมงคลสืบไป


ไร่องุ่น Silverlake (ซิลเวอร์เลค)



ทักทายแสงแดดแผดร้อนแรงแห่งภาคตะวันออกจากเขาชีจรรย์ไปแล้ว มาพักกายพักใจ กันที่ไร่องุ่นหนึ่งเดียวในพัทยา อาณาเขตกว้างใหญ่สุดตา ประดับประดาด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ การตกแต่งสไตล์สถาปัตยกรรมตะวันตก ซึ่งคุณสุพรรษา เนื่องภิรมย์ อดีตนางเอกชื่อดัง เจ้าของไร่องุ่นซิลเวอร์เลค ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเข้าชมไร่องุ่นต่างๆในประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากจะมีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปและบริการนั่งรถรางชมไร่องุ่นแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากองุ่นให้เลือกสรรซื้อกลับบ้านไปเป็นของฝาก หรือถ้าจะแวะชิมไวน์ชั้นเลิศดื่มด่ำกับบรรยากาศธรรมชาติที่สวยงามก็ได้ ชิลกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว


วิหารเซียน (อเนกกุศลศาลา)


อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเก่าแก่และมีชื่อเสียงของเมืองพัทยา แหล่งโบราณวัตถุศิลปะจีนและไทย ก่อตั้งโดยนาย สง่า กุลกอบเกียรติ พร้อมด้วยคณะและญาติมิตร โดยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาติจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในมงคลวโรกาสที่ทรงเจริญพระชมน์พรรษาครบ 5 รอบ ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก



เมื่อเข้าไปถึงวิหารเซียน ควรแวะกราบสักการะขอพร “พระพุทธรูปหยกขาว” ที่ประดิษฐานอยู่ในวิหาร จากนั้นซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมวิหาร3ชั้น ด้านหน้าวิหารมีรูปหล่อโลหะแปดเซียนข้ามทะเลยิ่งใหญ่และสวยงามมาก เมื่อเข้ามาภายใน บริเวณชั้น1 เป็นพื้นที่จัดแสดงรูปหล่อสำริดโบราณขนาดต่างๆ ที่น่าประจำใจคือแบบจำลอง กำแพงเมืองจีนและรูปปั้นกองทหารของจิ๋นซีฮ่องเต้ รวมถึงภาพวาดและโบราญวัตถุต่างๆ เดินขึ้นบันไดมา บริเวณชั้นที่ 2โถงลานกว้างกลางแจ้งเป็นพื้นที่จัดแสดงรูปหล่อของเหล่าเทพ , 18มนุษย์ทองคำ แห่งวัดเส้าหลิน และรูปหล่อสำริดจำลองวิถีชีวิตของชาวจีนโบราณ บริเวณชั้น3 ภายในตกแต่งเป็นศิลปะแบบไทย มีภาพพุทธประวัติขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่ประสูติจนถึง ปรินิพพาน อีกทั้งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธชินราชองค์จำลองให้ได้กราบสักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล จากชั้น3ของวิหารเซียน สามารถมองเห็นวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร เป็นทัศนียภาพที่สวยงามมาก






วัดญาณสังสรารามวรมหาวิหาร


วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร สังกัดธรรมยุตินิกาย มีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) เป็นองค์ประธานจัดสร้างวัด เมื่อปี 2519



ภายในมีศาสนสถานสำคัญต่างๆ อาทิ พระบรมธาตุเจดีย์มหาจักรีพิพัฒน์ , พระวิหารพระศรีอริยเมตไตรย รวมถึงศาลาต่างๆและพระตำหนักทรงพัฒนา เมื่อขับรถขึ้นบนจุดสูงสุดของวัดจะพบ พระมหามณฑปพุทธบาท ภปร.สก. เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท องค์พระมณฑปประดับด้วยโมเสสสีทองจรดยอด ราวบันไดพญานาคขึ้นลงมณฑปประดับด้วยกระเบื้อง เคลือบเกล็ดพญานาคสีขาว ชั้นบันได 200 ชั้น สวยงามมากล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ที่ให้ความสงบร่มเย็น ด้วยตำแหน่งของวัดตั้งอยู่บนเนินเขาสูง จึงสามารถมองเห็นเมืองพัทยาได้กว้างไกลสุดสายตา


สมาคมฯชวนชิม


ปิดทริปส่งท้ายกันที่ “ครัวป้าติ๋ม” ร้านอาหารตามสั่งที่ดูธรรมดา แต่รสชาติไม่ธรรมดา พิกัดของร้านอยู่ริมถนนทางเข้าไร่องุ่นซิลเวิร์เลค จากสุขุมวิท (ประมาณ กม. 161) พอเลี้ยวเข้าซอย ข้ามทางรถไฟไปไม่ไกลอยู่ซ้ายมือ



ถึงร้านแล้วก็ไม่รอช้าจัดเมนูเด็ด “ข้าวผัดกะปิ” ข้าวร้อนๆผัดกับกะปิรสดี ใส่กุ้งตัวโตๆ โรยหน้าด้วยหอมแดงและพริกขี้หนูซอย บีบมะนาวลงไปหน่อยอร่อยเลย ยังไม่ถึงใจเลยสั่ง “ยำปูม้า” ปูสดๆแช่เย็นคลุกเคล้าเข้ากับน้ำยำจัดจ้านแซ่บซี๊ดถึงใจ กันเลยทีเดียว เบรคความเผ็ดเติมความหวานกันด้วยเมนู “กุ้งราดซอสมะขาม” น้ำซอสรสเปรี้ยวหวานกำลังดี กินเคียงกับหอมเจียวและพริกทอด อร่อยครบเครื่องกันเลยทีเดียว หากผ่านมาเส้นทางนี้การันตรีเลยค่ะว่า “ครัวป้าติ๋ม” เป็นอีกหนึ่งความอร่อยที่คุณไม่ควรพลาด


ฝากไว้ซักนิดก่อนคิกเดินทาง


·      เขาชีจรรย์ เปิดเวลา 06.00 น.- 18.00 น. การเยี่ยมชมควรแต่งกายด้วยความสุภาพ -ปฎิบัติตามป้ายเตือนอย่างเคร่งครัด และงดเสียงดัง และควรระวังไม่เข้าใกล้องค์พระเกินกว่าที่กำหนดเพราะอาจ เกิดอันตรายจากหินที่อาจล่วงหล่นลงมาได้ ไม่มีค่าเข้าชมใดๆทั้งสิ้น
·     วิหารเซียน เปิดเวลา 08.00-17.00 น. ค่าเข้าชมท่านละ 50 บาท
·     วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร เปิดเวลา 06.00 น.- 18.00 น. การเยี่ยมชมควรแต่งกายด้วยความสุภาพ