สมาคมฯชวนชิล : กราบหลวงพ่อเดิม ตำนานมีดหมออันลือเลื่อง

22 กุมภาพันธ์ 2562 ยอดผู้ชม 8703 ครั้ง

ท่องเที่ยวเมืองมังกร จ.นครสวรรค์


เดินทางจากกรุงเทพมหานคร ใช้เส้นทางถนนสายเอเชีย ขับรถผ่าน จ.พระนครศรีอยุธยา-อ่างทอง-สิงห์บุรี-ชัยนาท-อุทัยธานี มุ่งหน้าไปยัง “จ.นครสวรรค์” ประตูด่านแรกสู่ภาคเหนือ เมืองที่ใครหลายคนบอกว่าที่นี่เป็นเมืองผ่าน แต่ “สมาคมฯชวนชิล” ขอยืนยันนั่งยันนอนยันเลยว่าไม่จริง จ.นครสวรรค์เป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติอันสวยงาม อีกทั้งวัดวาอารามเก่าแก่และพระเกจิคณาจารย์ชื่อดัง ซึ่งเมื่อผ่านเห็นป้าย “ต.หนองโพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์” (ตั้งอยู่ก่อนถึง อ.เมืองนครสวรรค์) ก็ทำให้รำลึกถึงและต้องแวะกราบสักการะ “หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ” เทพเจ้าแห่งเมืองสี่แคว


center

หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ต.หนองโพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์


“หมากดีวัดหนังเบี้ยขลังวัดนายโรง ไม้ครูอยู่คู่วัดอินทร์ ส่วนมีดบินวัดหนองโพ ฯลฯ” ข้างต้นนี้คือบางท่อนบางตอนของบทกลอนที่กล่าวถึง เครื่องรางของขลัง ๙ สิ่ง จากบันทึกส่วนพระองค์ของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งรวมถึง “มีดหมอหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ” สุดยอดเครื่องรางของขลังของเมืองไทย


center

“พระครูนิวาสธรรมขันธ์ หรือ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ” เกิดเมื่อวันพุธที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๐๓ และมรณภาพเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๔ สิริอายุ ๙๑ ปี ๗๐ พรรษา ท่านเป็น “สมณะผู้สมถะ” ไม่ยึดติดต่อลาภยศสรรเสริญอามิสใด ๆ ท่านแตกฉานในด้านปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานและอาคมขลัง เป็นพระนักพัฒนาและมีเมตตาบารมีต่อทุกสรรพสัตว์ ทำให้ในอดีตวัดหนองโพเป็นศูนย์รวมของชาวบ้านทั้งด้านศาสนา การศึกษา การแพทย์ และสังคมประเพณี


center

วัตถุมงคลของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ มีอยู่ด้วยกันหลายอย่าง อาทิเช่น เหรียญรุ่นแรก สร้างปีพ.ศ.๒๔๗๐ เป็นเหรียญเสมา, เหรียญรูปไข่ ปี พ.ศ. ๒๔๘๒ มี ๒ เนื้อ คือเนื้อเงินและเนื้อทองแดง, รูปเหมือนปั๊ม, รูปเหมือนหล่อ, ตะกรุด, เสื้อยันต์, ผ้ายันต์, สิงห์งาแกะ และ มีดหมอ ปัจจุบันเป็นที่เสาะแสวงหาบูชาของบรรดานักนิยมสะสมเครื่องรางของขลัง ด้านพุทธคุณเล่าต่อกันว่าเด่นในทางคงกระพันแคล้วคลาด เมตตามหานิยม



ภายในวัดเมื่อเข้ามาถึงจะเห็น “มณฑป” ด้านบนประดิษฐาน “รูปหล่อเหมือนหลวงพ่อเดิม” ขนาดเท่าองค์จริงให้พุทธศาสนิกชนและศิษยานุศิษย์ที่เคารพนับถือได้มาสักการะกราบไหว้ ส่วนด้านข้างทั้งซ้ายและขวาของมณฑปมีรูปปั้นช้าง ซึ่งเป็นสัตว์ที่ใกล้ชิดและมีความผูกพันกับหลวงพ่อเดิมมากเชื่อว่าหากได้ลอดใต้ท้องช้างทั้ง ๒ เชือก จะเป็นสิริมงคล ถัดมาจะเห็น “ศาลามีดหมอ” เป็นเรือนไม้ชั้นเดียว ภายในมีมีดหมอยักษ์จักรนารายณ์ หลวงพ่อเดิม สามารถเข้าไปชมและเดินลอดใต้มีดหมอเพื่อความเป็นสิริมงคลและปัดเป่าสิ่งไม่ดีไม่มงคลในชีวิตนอกจากนี้ยังมี พระอุโบสถ, เจดีย์ ๓ องค์, สระหิน และเมรุพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อเดิม ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นศาสนสถานเก่าแก่ที่ได้รับการดูแลและอนุรักษ์เป็นอย่างดี



พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อเดิม


เมื่อมาถึงวัดหนองโพแล้ว สมควรอย่างยิ่งที่ต้องเข้ามาชม “พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อเดิม” ย้ำรัว ๆ ว่าไม่ควรพลาด พิพิธภัณฑ์มีชีวิตแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณฐานองค์พระมหาธาตุเจดีย์นิวาสธรรมขันธ์ กิตติคุณัปปกาสินี เป็นห้องแอร์ปรับอากาศเย็นสบาย ภายในจัดแสดงนิทรรศการถาวร นำเสนอเรื่องราวของหลวงพ่อเดิมและท้องถิ่นบ้านหนองโพโดยแบ่งเนื้อหาออกเป็น ๔ องก์


center

“องก์1 มาตุภูมิบ้านหนองโพ” โบราณคดีบริเวณตำบลหนองโพ จุดแสดงวัตถุโบราณที่ขุดพบ ซึ่งมีอายุระหว่าง ๘๐๐ - ๔,๐๐๐ ปี การตั้งถิ่นฐาน วิวัฒนาการวิถีชีวิตและวัฒนธรรมประเพณีของชาวบ้านหนองโพที่สืบทอดกันมากกว่า ๒๐๐ ปี
“องก์2 ห้องพุทฺธสโร หลวงพ่อเดิม” จัดแสดงอัตถชีวประวัติ วัตรปฏิบัตรบารมีของหลวงพ่อเดิมในด้านต่าง ๆ ตลอดจนข้าวของเครื่องใช้ของท่านที่ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี ได้มาเห็นถือว่าเป็นบุญตาเป็นมงคลแก่ชีวิต
“องก์3 ห้องเพิ่มพูนศรัทธา” ถ่ายทอดเรื่องราวความศรัทธาของชาวบ้านหนองโพและศิษยานุศิษย์ ทั้งการสร้างหีบและเมรุพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อเดิม รวมถึงจัดแสดงวัตถุมงคลทั้ง รูปหล่อ เหรียญ แหวน ผ้ายันต์รอยเท้า พระและเครื่องรางงาแกะ และมีดหมอ ซึ่งบางส่วนนักนิยมสะสมพระเครื่องผู้มีศรัทธาต่อหลวงพ่อเดิมได้มอบให้กับทางพิพิธภัณฑ์เพื่อเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมในการศึกษา นับว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง
“องก์4 ห้องกถาคัมภีร์” จัดแสดงคัมภีร์โบราณที่พบในวัดหนองโพ มีเนื้อหาหลากหลาย ทั้งไสยเวท, ยารักษาโรค ทั้งตำรับยาไทยยาฝรั่ง, ตำราเรียน, ความเชื่อพิธีกรรมและพระพุทธศาสนา



บึงบอระเพ็ด


เดินทางออกจากวัดหนองโพ อากาศยามเที่ยงเมืองไทยยังคงคุณภาพความร้อนแบบเสมอต้นเสมอปลาย นั่นมิใช่ปัญหาค่ะ เชิญมาหลบร้อนกันได้ที่ “บึงบอระเพ็ด” แหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ที่ตอนนี้เขามี “อาคารจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ” ภายในมีอุโมงค์ปลายาวถึง ๒๔ เมตรจัดแสดงปลาน้ำจืดกว่า ๑๐๐ ชนิด พร้อมพันธุ์ปลาน้ำเค็มอีกหลายพันธุ์ ซึ่งไฮไลท์ของที่นี่คือ “ปลากระเบน” ตัวใหญ่ยักษ์ที่เวลาเวียนว่ายไปมาสร้างความฮือฮาตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ที่มาเยี่ยมชมเป็นอย่างมาก


และแน่นอนเมื่อมาถึงบึงบอระเพ็ดก็ต้องชมการแสดงจระเข้หรือถ้าอยากล่องเรือชมทัศนียภาพ ดูนกนานาชนิด บัวหลากหลายสายพันธุ์ สามารถติดต่อเช่าเรือได้ที่ท่าเรือบึงบอระเพ็ด ก็จะได้สัมผัสธรรมชาติที่สวยงามอย่างใกล้ชิด มีความสุขสนุกสนานไปอีกแบบค่ะ



ศาลเจ้าพ่อ เจ้าแม่ หน้าผา


ลัดเลาะเที่ยวนอกเมืองมาพอสมควรแล้ว ก็ขับรถข้ามสะพานเดชาติวงศ์ สะพานเก่าที่เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองมังกร จ.นครสวรรค์ เหตุที่เรียกว่าเมืองมังกรนั้นเพราะตั้งแต่ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ เป็นพื้นที่ที่มีคนจีนอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานและประกอบอาชีพทำการค้า จนถึงปัจจุบันจึงยังมีคนไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ จ.นครสวรรค์ ยังมีชื่อเสียงในเรื่องการจัดงานวันตรุษจีนที่ยิ่งใหญ่อลังการมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก และถ้าหากสังเกตดี ๆ จะเห็นหุ่นปั้นรูปมังกรประดับประดาอยู่ทั่วทั้งเมือง



“ศาลเจ้าพ่อ เจ้าแม่หน้าผา” ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำปิง ห่างจากตลาดปากน้ำโพขึ้นไปตามถนนโกสีย์ประมาณ ๒ กิโลเมตร ภายในประดิษฐานเจ้าพ่อ เจ้าแม่หน้าผา หรือที่คนไทยเชื้อสายจีนเรียกว่า ปึงเถ่ากง-ปึงเถ่ามา, เจ้าพ่อกวนอู หรือ กวงกง, เจ้าแม่สวรรค์ หรือ เทียนโหวเซี้ยบ้อ และ ใช้ซิ่งเอี้ย หรือ ไฉ่เส้นเหย ประชาชนส่วนใหญ่นิยมมากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล ถือได้ว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์และความสัมพันธ์ของชาวไทยเชื้อสายจีนในท้องถิ่นที่หล่อหลอมไว้อย่างเหนียวแน่น


center

สมาคมฯชวนชิม


เดินทางมา จ.นครสวรรค์ ทั้งทีต้องได้ลิ้มรสเมนูปลาจากปากน้ำโพ ซึ่งไม่ไกล อยู่ใกล้ ๆ ศาลเจ้าพ่อ เจ้าแม่หน้าผา เดินไปไม่ถึง ๑๐ ก้าว ก็ถึงร้าน “ครัวหน้าผา” ร้านเก่าแก่ดั้งเดิม บรรยากาศในร้านดูเรียบง่าย ผ่านไปมาถ้าไม่สังเกตดี ๆ อาจคิดว่าร้านปิด แต่ขอบอกเลยว่ารสชาติอาหารจานเด็ดร้านนี้เขาไม่ธรรมดา เมนูขึ้นชื่อได้แก่ “ทอดมันปลากราย” เนื้อปลาแท้ ๑๐๐% เหนียวแน่นเด้งละมุนลิ้น “ปลาอินทรีหลน” ทานคู่ผักสดและดอกอัญชัน อร่อยจนต้องยกนิ้วให้ สำหรับคนที่ชอบทานเนื้อ แนะนำให้สั่ง “แกงเนื้อหน่อไม้ดอง” น้ำแกงเข้มข้นผสมผสานกับเนื้อนุ่มและหน่อไม้ดองรสชาติกำลังดี ให้อารมณ์อาหารแบบพื้นบ้าน ตัดเผ็ดด้วย “ปลาแรดทอดราดซอสมะขาม” และ “ยอดมะระผัดน้ำมันหอย” อร่อยสุด ๆ รสชาติดี วัตถุดิบชั้นเลิศ ราคามิตรภาพ เชิญมาชิมกันได้ค่ะ “สมาคมฯชวนชิม” ขอรับประกันความอร่อย ยกนิ้วโป้ง เยี่ยมยอด ๆ ให้เลยค่า



หอชมเมือง และ พระจุฬามณีเจดีย์


ทานของอร่อย ๆ จนอิ่มท้อง พระอาทิตย์ก็เตรียมลาลับขอบฟ้า “สมาคมฯชวนชิล” ขอแนะนำให้มาที่ “หอชมเมือง” ทางขึ้นทางเดียวกันกับ “พระจุฬามณีเจดีย์” เป็นอาคารสูง ๓๒ เมตร กดลิฟท์ขึ้นไปชั้น ๙ หรือถ้าท่านใดฟิตแข็งแรง จะเดินขึ้นบันไดก็ไม่ว่ากัน แต่เมื่อขึ้นไปแล้วรับรองว่าต้องประทับใจ เพราะสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองนครสวรรค์ยามพลบค่ำได้ครบทั่ว ๓๖๐ องศา และชื่นชม“พระจุฬามณีเจดีย์” ที่ประดับไฟได้จากมุมสูง งดงามมาก ถ้าอยากจะไปไหว้พระก็ไม่ไกล ขับรถไปต่ออีกนิดเดียวก็ถึงพระจุฬามณีเจดีย์ตั้งอยู่บนยอดเขาดาวดึงส์ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปจำลององค์สำคัญของประเทศไทย ถือได้ว่าจุดชมวิวอีกจุดหนึ่งที่มองเห็นทัศนียภาพเมืองนครสวรรค์และแม่น้ำปิงอันสวยงาม



ฝากไว้สักนิดก่อนคิดเดินทาง


๑. พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ เปิดทำการ วันอังคาร - วันอาทิตย์ เวลา ๑๙.๐๐ - ๑๗.๐๐ น. (หยุดวันจันทร์)
๒. อาคารจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ บึงบอระเพ็ด ค่าเข้าชมท่านละ ๔๙ บ.
๓. หอชมเมืองเทศบาลนครสวรรค์ ค่าเข้าชมท่านละ ๒๐ บ.