จังหวัดเชียงใหม่ถือได้ว่าเป็นดินแดนที่มีความงดงามทั้งในเรื่องศิลปะวัฒนะธรรมประเพณี วิถีชีวิต ดนตรี การแต่งกาย อาหารการกิน ตลอดจนภาษา การเอื้อนเอ่ยทักทายพาที รอยยิ้มหวานจริงใจ ทุกสิ่งล้วนดูละเอียดอ่อนละมุนละไมและมีเอกลักษณ์ ถึงแม้ความศิวิไลซ์จะเข้ามาเยือนตามกาลเวลา แต่ก็ไม่สามารถกลบกลิ่นอายล้านนาของเมืองเชียงใหม่ให้คลายลงได้เลยการเดินทางครั้งนี้ “สมาคมฯชวนชิล” ขอนำเสนอเส้นทางสุดฮิตเที่ยวไม่มีเบื่อให้คนที่เคยไปแล้วได้คิดถึงอยากไปสัมผัสอีกครั้งให้คนที่ยังไม่เคยไปใจเต้นระรัวจนอยากเก็บกระเป๋าออกเดินทาง “วัดพระธาตุดอยสุเทพ-พระตำหนักภูพิงฯ-บ้านม้งดอยปุย”ปิดท้ายด้วยอาหารเมืองล้ำขนาด กาด(ตลาด) แหล่งซื้อของฝาก แอบกระซิบเบาๆว่าเชียงใหม่หน้าฝน ก็ฟินไม่ใช่เล่น อยากรู้ว่าจะม่วนอกม่วนใจ๋ขนาดไหน กระโดดขึ้นรถแดง พาหนะคู่เมืองเชียงใหม่มาด้วยกันเลยค่ะ

ออกเดินทางจากโรงแรมโลตัสปางสวนแก้ว (ขอขอบพระคุณสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ภาคเหนือเขต2 ที่การสนับสนุนที่พักมา ณ ที่นี้ค่ะ)  มุ่งหน้าสู่ ถ.ศรีวิชัย(ทล.1004) ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงทางขึ้นดอยสุเทพ จุดแรกแวะกราบ “อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย” นักบุญแห่งล้านนา ที่ชาวเมืองเหนือต่างให้ความเคารพศรัทธา ท่านเป็นพระนักพัฒนาที่มีบทบาทสำคัญในการทำนุบำรุงพระศาสนาและบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม โบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ในแถบภาคเหนือให้กลับมาสมบูรณ์สวยงามสมัยก่อนการขึ้นไปนมัสการพระธาตุดอยสุเทพค่อนข้างลำบาก ครูบาศรีวิชัยท่านเป็นผู้บุกเบิกและหลอมรวมแรงใจจากชาวบ้านในการพัฒนาถนนทางขึ้นดอยสุเทพ ชาวเมืองเชียงใหม่จึงพร้อมใจกันสร้างอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ไว้ ณ บริเวณเชิงทางขึ้นดอย เพื่อรำลึกถึงพระเดชพระคุณของท่าน โดยส่วนใหญ่นิยมนำธูปเทียน ดอกไม้ ไม่ว่าจะเป็นดอกดาวเรือง ซึ่งหมายถึงความเจริญรุ่งเรือง หรือ ดอกบัว ซึ่งหมายถึง ความบริสุทธิ์ มากราบสักการะขอพรท่านเพื่อความเป็นสิริมงคล

นักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางมา จ.เชียงใหม่ ต้องขึ้นไปสักการะพระบรมธาตุดอยสุเทพกันทุกคน ใครมาแล้วไม่เคยขึ้นไปแสดงว่ามาไม่ถึง“วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร”เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่มาตั้งแต่สมัยโบราณกาล สร้างขึ้นเมื่อต้นพุทธศตวรรษที่19 ในสมัยพระเจ้ากือนาธรรมิกราชเจ้าหลวงเมืองเชียงใหม่องค์ที่6 เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่ได้ทรงอัญเชิญมาจากเมืองศรีสัชนาลัยพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารเป็นพระบรมธาตุประจำปีมะแม มีพุทธศาสนิกชนชาวไทยและชาวต่างเดินทางมากราบสักการะขอพรและชื่นชมความงดงามของพระบรมธาตุเป็นจำนวนมาก

จุดเด่นที่ถือได้ว่าเป็นเสน่ห์ของที่นี่คือบันไดนาค 300 ขั้นท่านใดมีจิตศรัทธาอันแรงกล้า พร้อมด้วยสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ก็ขอเชิญชวนให้เดินขึ้นบันไดนาค จะได้อรรถรสในการเดินทางอีกแบบหนึ่ง หรือถ้าแรงศรัทธาเต็มร้อยแต่ร่างกายไม่เอื้ออำนวย ขอแนะนำให้ใช้บริการรถรางไฟฟ้าขึ้นลงค่าบริการ ชาวไทย 20บ. ชาวต่างชาติ 50บ. ซึ่งนอกจากจะได้กราบสักการะพระบรมธาตุและพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานอยู่ด้านบนแล้วยังได้ชมทัศนียภาพเมืองเชียงใหม่ที่สวยงามเหมือนอยู่บนสวรรค์

เยี่ยมชมพระตำหนัก ดื่มด่ำความงดงามของดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ พระตำหนักภูพิงฯ อยู่ห่างจากวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ ประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นพระตำหนักที่ประทับในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จแปรพระราชฐานมาประทับแรมที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในเขตภาคเหนือ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ใช้เป็นที่รับรองพระราชอาคันตุกะที่เสด็จฯ เยือนประเทศไทย ภายในมีสถานที่น่าชม อาทิ เรือนปีกไม้ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เรือนรับรอง พลับพลาผาหมอน และสวนเฟิร์น อ่างเก็บน้ำ พระตำหนักต่างๆ และหอพระ ระหว่างเส้นทางเดินเต็มไปด้วยแปลงดอกไม้และต้นไม้นานาพันธุ์ ดอกกุหลาบสวยงามบานสะพรั่ง อากาศบริสุทธิ์ สูดหายใจรับโอโซนกันเต็มปอด แม้สายฝนจะโปรยปรายลงมา ก็ไม่เปียกเพราะได้ร่มเงาจากต้นไม้สูงเป็นเสมือนร่มธรรมชาติ เดินมาจนสุดทางจะพบร้านค้าของโครงการหลวง มีเมนูอร่อยๆ ให้เลือกทานทดแทนพลังงานที่สุญเสียไป สมาคมฯชวนชิล ขอแนะนำวาฟเฟิลโฮมเมด ออกจากอบร้อนๆ จิบน้ำส้มคั้นสด อร่อยเข้ากันสุดๆ

ขายผ้า ขายเพชร ขายพลอย ขายแหวาน ขายสร้อยอยู่ บนดอยปุย ชมวิถีชีวิตหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง(แม้ว)ท่ามกลางสายหมอกและหมู่มวลดอกไม้ ประชากรส่วนใหญ่ของที่นี่ประกอบอาชีพค้าขาย เกษตรกรรมและหัตถกรรม เมื่อได้ผลผลิตก็จะนำมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยมเยือน จุดเด่นของที่นี่คือบริการให้เช่าชุดพื้นเมืองของชาวเขาถ่ายรูป ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หากอากาศหนาวๆอยากจิบชา กาแฟร้อนๆ ก็ขอเชิญที่ร้านกาแฟห้อยขาชมวิวบนยอดดอย ชิลมากๆสาวกสโลไลฟ์บอกเลยว่าไม่ควรพลาด

เส้นทาง“วัดพระธาตุดอยสุเทพ-พระตำหนักภูพิง-บ้านม้งดอยปุย” ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย อาทิ น้ำตกห้วยแก้ว , น้ำตกมณฑาธาร , วังบัวบาน , ผาเงิบ , สวนสัตว์เชียงใหม่ และขุนช่างเคี่ยน ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของดอกพญาเสือโคร่งในฤดูหนาว

ลงจากดอยสุเทพ ท้องก็ร้องจ๊อกๆ ได้ข่าวมาว่าย่านนิมมานเหมินท์ ของกินอร่อยๆเยอะมากๆ แต่มาเชียงใหม่ทั้งที ที่พลาดไม่ได้เห็นจะเป็นเมนู “ข้าวซอย” อาหารพื้นเมืองของภาคเหนือ เลยขอเลือกร้าน “ข้าวซอยนิมมาน” ที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยตามตำรับดั้งเดิม เพิ่มเครื่องเครา อาทิ กุ้ง ปลาหมึก น่องไก่เนื้อนุ่ม ไส้อั่ว ฯลฯ เพื่อตอบโจทย์ความหลากหลาย เส้นข้าวซอยหนานุ่มคลุกเคล้ากับน้ำแกง หวาน หอม มัน แนะนำให้ทานเคียงกับหมูหวานสูตรของทางร้าน ลำแต้แต้ ลำขนาดเจ้า จบของคาวต้องตามด้วยของหวานตามธรรมเนียม “ไอศกรีมIberry” ร้านไอศกรีมหมาตัวใหญ่ ของคุณโน้ต อุดม แต้พานิช มีให้เลือกหลากหลายรส พร้อมด้วยเบเกอรี่หลายหลายเมนู ซึ่งนอกจากรสชาติความอร่อยแล้ว การตกแต่งร้านยังคงความสนุกสนานสีสันน่ารักอารมณ์ดี มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะแยะ รับรองว่าถูกใจคนชอบเซลฟี่ ชอบเช็คอิน อย่างแน่นอน กดไลค์รัวๆเลยค่า

ก่อนกลับก็ต้องแวะซื้อของติดไม้ติดมือเป็นของที่ระลึกหรือฝากคนรู้จักรู้ใจกันสักหน่อย สมาคมฯชวนชิลก็ขอฝาก กาด(ตลาด)และถนนคนเดิน ที่ขึ้นชื่อของเมืองเชียงใหม่ไว้ให้เป็นลายแทงไปชอปปิ้งกัน

แหล่งรวมของฝากประเภทอาหารพื้นเมือง ผลไม้นานาชนิด 1.) ตลาดวโรรส (กาดหลวง) ถ.ช้างม่อย บรรจบกับ ถ.วิชยานนท์ เปิดทุกวัน 06-00-23.00 น. 2.) ตลาดสุเทพ (กาดพะยอม) ถ.สุเทพ ใกล้ทางเข้ากองบิน41 เปิดทุกวัน 05.00-20.00 น.

ถนนคนเดินยามค่ำคืน แหล่งเครื่องเงินและสินค้าพื้นเมือง งานแฮนด์เมคทำมือแต่มาจากใจ และพื้นที่แสดงศิลปะวัฒนะธรรมพื้นบ้าน 1.) ถนนคนเดินวัวลาย ถ.วัวลาย เปิดวันเสาร์ 17.00-22.00 น. 2.) ถนนคนเดินท่าแพ ถ.ราชดำเนิน จากประตูท่าแพไปจนถึงวัดพระสิงห์ เปิดวันอาทิตย์ 17.00-23.00 น.