สมาคมฯชวนชิล : ลัดเลาะเกาะใกล้กรุง “เกาะเกร็ด”

22 กุมภาพันธ์ 2562 ยอดผู้ชม 8100 ครั้ง

สมาคมฯชวนชิล สัปดาห์นี้เราจะพาไปชิลกัน ณ เกาะใกล้กรุง “เกาะเกร็ด” เกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งอยู่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นชุมชนของชาวไทยเชื้อสายมอญ แหล่งรวมความหลากหลายทางวัฒนธรรม เครื่องปั้นดินเผาและขนมหวานขึ้นชื่อ วัดวาอาราม โบราณสถานที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ซึ่งรวมถึง “วัดศาลากุล” วัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องเครื่องรางของขลัง “หนุมาน หลวงพ่อสุ่น” หนึ่งในสุดยอดเครื่องรางของขลังแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา


“วัดศาลากุล”


เดิมตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากดินแม่น้ำงอกขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันจึงอยู่เกือบใจกลางของเกาะเกร็ด ศาสนสถานในวัดล้วนสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด ทั้งพระอุโบสถและศาลาการเปรียญ ฯลฯ แต่สิ่งที่ยังคงรักษาไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ชื่นชม คือ โบราณวัตถุ เครื่องมุก เครื่องแก้ว หอระฆัง และ สระน้ำ ที่ผู้ดูแลวัดให้ข้อมูลว่าเป็นของเก่าตั้งแต่ในสมัย พระอธิการ (สุ่น จันทโรติโก) อดีตเจ้าอาวาส ผู้เรืองเวทย์



พระอธิการ (สุ่น จันทโรติโก) หรือ หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุล


ท่านเกิดในราวปีพ.ศ.2403 ปีวอก และมรณะภาพ ราวปี พ.ศ.2482 ปีเถาะ สิริอายุ ประมาณ 79 ปี วัตถุมงคลของท่านเป็นหนึ่งในเบญจภาคีเครื่องรางของขลังที่นักนิยมสะสมพระเครื่องต่างอยากมีไว้บูชา นั้นคือ “หนุมาน” ที่แกะสลักจากไม้รัก ไม้พุดซ้อน และงาช้าง สามารถแบ่งแยกได้ 2 พิมพ์ คือพิมพ์หน้าโขน เป็นฝีมือการแกะที่ปราณีตวิจิตรของช่างแกะ เก็บรายละเอียดส่วนต่างๆได้ครบถ้วน และ หน้ากระบี่ เป็นการแกะแบบเรียบง่าย แต่ดูสวยงามเข้มขลัง วัตถุมงคลของท่านมีพุทธคุณเด่นในเรื่องของเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย



"วัดปรมัยยิกาวาสวรวิหาร"


กราบพระคณาจารย์ดังประจำท้องถิ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็มาเริ่มที่จุดสตาร์ทของเกาะเกร็ด นั่นก็คือ “วัดปรมัยยิกาวาสวรวิหาร”เป็นวัดเก่าแก่ อายุกว่า 200 ปี สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย โดยชาวมอญที่อพยพมาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร เรียกตามภาษามอญว่า เพี๊ยะมุ๊เกี๊ยะเติ้ง แปลว่า วัดแหลม คนไทยเรียกว่า วัดปากอ่าว ต่อมาในปีพ.ศ. 2417 วัดปากอ่าวมีสภาพทรุดโทรม พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ ทรงมีพระราชศรัทธาสถาปนา เพื่อสนองพระคุณพระเจ้าบรมมหัยยิกาเธอ กรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร ผู้ทรงเลี้ยงดูพระราชมารดาและพระองค์ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ และทรงโปรดเกล้าให้เปลี่ยนนามวัดปากอ่าวว่า วัดปรมัยยิกาวาส แปลว่า วัดของย่าในหลวง พระอุโบสถวัดปรมัยยิกาวาสเป็นสถาปัตยกรรมตามแบบพระราชนิยม  ภายนอกคงความเป็นศิลปะแบบมอญ ภายในตกแต่งตามศิลปะแบบยุโรป มีภาพจิตรกรรมฝาผนังสวยงามละเอียดลึกซึ้ง


เมื่อมาถึงวัดปรมัยยิกาวาส ก็ต้องขอกล่าวถึง ท่านเจ้าคุณพระสุเมธาจารย์ (พระคุณจู) และ ท่านเจ้าคุณพระสุเมธาจารย์ (พระคุณวอน) อดีตเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านอย่างมาก ท่านเจ้าคุณวอนท่านเป็นเจ้าคณะสายรามัญนิกาย วัตถุมงคลของท่านที่โด่งดังคือผ้าประเจียดแดง ลงอักขระยันตรีนิสิงเห อักษรมอญ ขึ้นชื่อเรื่องคงกระพันชาตรี และเหรียญรุ่นแรก สร้างในงานทำบุญอายุครบ 6 รอบ ปีพ.ศ.2476 เหรียญนี้เป็นเหรียญเก่าหายากและเป็นที่หวงแหนของชาวบ้านที่มีไว้บูชาครอบครอง


center

เดินมาตามทางด้านหลังพระอุโสถวัดปรมัยยิกาวาสวรวิหาร จะพบ “พระมหารามัญเจดีย์” ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ โปรดเกล้าฯให้สร้างพระเจดีย์ทรงรามัญ ด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ พร้อมเสด็จพระราชดำเนินมาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและยกฉัตร ในวันพฤหัสบดี เดือน 4 ขึ้น 3 ค่ำ พ.ศ. 2427 และในวันที่ 13 เมษายน ซึ่งเป็นวันสงกรานต์ จะการสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ พิธีแห่ธงตะขาบและมี การละเล่นพื้นบ้านของชาวมอญ ณ บริเวณ พระมหารามัญเจดีย์ เป็นประจำทุกปี



นอกจากวัดวาอารามและโบราณสถานที่ทรงคุณค่าแล้ว เรื่องอาหารการกินที่เกาะเกร็ดก็ไม่เป็นสองรองใคร ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารพื้นบ้านและขนมไทยโบราณ มีให้เลือกซื้อทานหลากหลายละลานตาตลอดสองข้างทางเดิน อาทิ ขนมถ้วยกะทิหวานมัน ทองหยิบ ทองหยอด ทองเอก ฝอยทอง จ่ามงกุฎ รสชาติหอมหวานละมุน และขนมที่หาทานยาก อย่าง ขนมไข่ปลา คลุกเคลามะพร้าวอ่อน และ ขนมจีบไทย ปั้นเป็นรูปนก สวยงามน่ารับประทาน



แต่ที่จัดว่าเด็ดและไม่โดนถือว่ามาไม่ถึง คืออาหารพื้นบ้าน “ทอดมันหน่อกะลา” เมนูที่มาจากวัตถุดิบในท้องถิ่น คอนเฟริมว่าอร่อยมาก ทานคู่กับ “ดอกไม้ทอด” ดอกไม้สวยๆ เช่นดอกอัญชัญ ดอกเข็ม ดอกเฟื้องฟ้า นำมาชุบแป้งทอด ราดน้ำจิ้มรสเด็ดแนมด้วยแตงกวาสด อร่อยฝุด ๆ



เดินชิมเดินชิลมาเรื่อยๆ ก็มาถึง “แหล่งการเรียนรู้เครื่องปั้นดินเผา” ที่นี่เขามีการสาธิตขั้นตอนกรรมวิธีอย่างละเอียด ทั้งการปั้น การแกะลาย การเผา หากสนใจจะลองปั้นก็สามารถทดลองได้ มีค่าใช้จ่ายนิดหน่อยแต่สามารถนำผลงานกลับบ้านได้อย่างภาคภูมิใจ หรือจะอุดหนุนสินค้าเครื่องปั้นดินเผากลับบ้านก็เยี่ยมยอด เพราะเป็นการอุดหนุนสินค้าของคนไทย ที่มีคุณภาพดีแถมราคายังย่อมเยาว์อีกด้วย



นอกจากวัดที่กล่าวในข้างต้น ยังมีอีก 2วัดที่สามารถเดินเท้าไปได้ ระยะทางไม่ไกลมากคือ "วัดไผ่ล้อม" เป็นวัดที่สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย บรรยากาศร่มรื่น ด้านหน้าวัดมีท่าน้ำ ฝั่งตรงข้ามมองเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ หลวงพ่อโต วัดบางจาก สามารถแวะให้อาหารปลาและถ่ายรูปสวยๆวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยากันได้



ต่อมาคือ“วัดเสาธงทอง” เดิมชื่อวัดสวนหมาก เป็นวัดโบราณในสมัยกรุงศรีอยุธยา สร้างโดยชาวมอญ จุดเด่นคือโบราณสถานที่เก่าแก่สวยงาม เช่นพระอุโบสถ วิหาร และเจดีย์เก่าที่รายล้อมอยู่โดยรอบ มีทั้งเป็นเจดีย์เหลี่ยมย่อมุม ทรงระฆังกลม และ ทรงกลีบมะเฟือง ภายในมีวัดต้นยางใหญ่เก่าแก่อายุกว่า 200 ปี ศาลหลวงตากลับ และ ศาลกุมารพี่จุก ที่กล่าวกันว่าศักดิ์สิทธิ์มาก ที่สำคัญอย่าลืมเข้าไปกราบขอพรพระประธานเพื่อความเป็นศิริมงคล


สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ต้องมาสักการะ “เจดีย์มุเตา หรือ เจดีย์เอียง” สัญลักษณ์ของเกาะเกร็ด ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเจดีย์เก่าสร้างโดยชาวมอญ อายุราว 300 ปี ภายในบรรจุพระธาตุ เป็นที่เคารพของชาวไทยเชื้อสายมอญ เดิมมีลักษณะตั้งตรง แต่ต่อมาน้ำเซาะตลิ่งพัง จึงทำให้เจดีย์ทรุดตัว ปัจจุบันได้เสริมความแข็งแรงและยึดฐานไว้อย่างแน่นหนา กรมศิลปากรอนุญาตให้คงสภาพเอียงไว้ จึงกลายเป็นวิวพอยด์ของเกาะเกร็ด ที่เผยแพร่ไปทั่วโลก


center

ก่อนเดินทางกลับแวะกราบ“พระบรมราชานุเสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระเจ้าบรมมหัยยิกาเธอ กรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร” เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของทั้งสองพระองค์ พระบรมราชานุเสาวรีย์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมน้ำ ใกล้ท่าเรือข้ามฝาก สามารถมองเห็นและดื่มด่ำกับทัศนียภาพ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างรอบด้าน
หากคุณกำลังมองหาแพลนท่องเที่ยวแบบวันเดย์ทริป แนะนำให้มา เกาะเกร็ด เกาะใกล้กรุง แห่งนี้ แล้วคุณจะได้ครบทุกความสุข อิ่มบุญ อิ่มท้อง อิ่มใจ ใกล้กรุงเทพ แฮปปี้ดี๊ดี สมาคมชวนชิลคอนเฟริมครับผม

ฝากไว้ซักนิดก่อนคิดออกเดินทาง


  1. เกาะเกร็ด เที่ยวได้ทุกวัน แต่จะคึกคักในวันเสาร์ – อาทิตย์
  2. สามารถจอดรถที่วัดสนามเหนือมีท่าเรือข้ามฝั่งมายังเกาะเกร็ด
  3. สามารถเช่าจักรยานปั่นเที่ยวรอบเกาะได้ ไม่จำกัดเวลา
  4. การเดินทางไปวัดศาลากุล สามารถไปได้2 วิธี
    • ข้ามเรือจากท่าวัดกลางเกร็ด และนั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างต่อไปประมาณ 1.4 กิโลเมตร หรือ
    • ข้ามเรือจากท่าวัดสนามเหนือ เช่ารถจักรยานเวลา ขับชิล ๆ ชมวิวมาเรื่อย ๆ ประมาณ3 กิโลเมตร ก็จะถึงวัดศาลากุล
  5. มีบริการเรือนำเที่ยว-ไหว้พระรอบเกาะเกร็ด เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ ณ บริเวณท่าเรือ