ยอดนิยมจากคมเลนส์ ตอนที่ 12

24 กุมภาพันธ์ 2562 ยอดผู้ชม 11791 ครั้ง


พระกริ่งอุบาเก็ง หรือ พระกริ่งบาเก็ง เป็นพระกริ่งจีน ที่พบบนเขา "บาเก็ง" ในประเทศเขมร อายุนับพันปี พุทธศิลป์เป็นแบบจีนบริสุทธิ์ สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในประเทศจีน ต่อมาชาวจีนที่เข้าไปติดต่อค้าขายในประเทศเขมรได้นำติดตัวไปเพื่อใช้ในการรักษาโรคภัย และป้องกันสิ่งเลวร้าย ตามความเชื่อของคนสมัยนั้น หรืออาจจะสร้างในประเทศเขมรโดยช่างชาวจีน แล้วนำไปบรรจุที่ปราสาท "บาเก็ง" องค์ในภาพนี้ได้มาจากหนังสือ พระกริ่งยอดนิยม จัดทำโดยนิตยสาร “พระท่าพระจันทร์” รางวัลพระชนะเลิศแต่ละรายการ งานประกวดพระจัดโดย สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย สาขา กทม.และปริมณฑล (นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม สมุทรสาคร) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม 2557...พระกริ่งอุบาเก็ง หรือ พระกริ่งบาเก็ง ในเมืองไทยก็มีการนำมาถอดพิมพ์สร้างขึ้นภายหลังหลายสำนัก อาทิ วัดสุทัศนฯ และ พระกริ่งบาเก็ง วัดเอี่ยมวรนุช ที่ พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ปลุกเสก ปี 2506



พระหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว พิมพ์ซุ้มระฆัง เนื้อผงยาวาสนา เป็นพระยอดนิยมของท่านอีกพิมพ์หนึ่งที่หายาก และนับเป็นพิมพ์เอกลักษณ์เฉพาะตัวของ หลวงปู่บุญ ที่ท่านได้สร้างขึ้นด้วย เนื้อผงยาวาสนา ซึ่งทำขึ้นได้ยากยิ่ง เพราะมีส่วนผสมของสมุนไพรมากมาย คุณวิเศษของ ยาวาสนา หรือ ยาจินดามณี คือ แก้คุณไสย ป้องกันภูตผีปิศาจได้อย่างชะงัดนัก พระพิมพ์ซุ้มระฆังองค์นี้มีความสวยสมบูรณ์คมชัดทุกมิติ เป็นพระของ เอก ท่าพระจันทร์ ชาวใต้ผู้มีความสามารถในการดูพระเครื่องได้หลายประเภท



พระกสิณ หลวงพ่อพัฒน์นารโท วัดใหม่พัฒนาราม จ.สุราษฎร์ธานี รุ่นแรก พิมพ์ใหญ่ เนื้อดินผสมผงพุทธคุณ สร้างประมาณ พ.ศ.2472 เป็นพระยอดนิยมอันดับต้นๆ ของภาคใต้ องค์นี้สวยคมชัดมาก ของ ยอด สุราษฎร์ ถือเป็น พระแท้องค์ครู พระสวยองค์จริง สำหรับท่านที่สนใจพระสายนี้ได้ศึกษาเป็นวิทยาทาน…หลวงพ่อพัฒน์ เป็นพระบริสุทธิสงฆ์ที่อยู่ในหัวใจของชาวสุราษฎร์ธานีทุกคน ท่านเป็นพระนักปฏิบัติกรรมฐาน โดยใช้ ไฟ เป็นอารมณ์ เพ่งจนสำเร็จเรียกว่า กสิณไฟ ในขณะที่ท่านนั่งสมาธิเข้ากรรมฐานอยู่นั้น มีผู้พบเห็นว่ากุฏิของท่านมีเปลวไฟลุกโชนท่วมทั้งหลัง และเปลวไฟนั้นจะค่อยๆ มอดดับลงเองเมื่อท่านออกจากกรรมฐาน หลวงพ่อพัฒน์ ท่านดับขันธ์ในท่านั่งสมาธิ ต่อมาสรีระสังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย และแข็งเป็นหินไปในที่สุด ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดใหม่พัฒนาราม อ.บ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี ทุกวันจะมีผู้คนไปสักการบูชาอย่างต่อเนื่อง จนกลิ่นธูปควันเทียนไม่เคยจางหายเลย วัตถุมงคลที่สร้างในสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ได้แก่ พระกสิณ เนื้อดินผสมผง-เนื้อว่านยา,เหรียญกสิณ เนื้อฝาบาตร (มีน้อย) และเนื้ออัลปาก้า ตะกรุด ฯลฯ ทุกอย่างล้วนมีพุทธคุณสูง เป็นที่ทราบกันดีในหมู่ผู้ใช้บูชาติดตัว



เหรียญอาแป๊ะโรงสี โง้วกิมโคย เนื้อทองแดง รุ่นแรก ปี 2519 เป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมสูงจากลูกศิษย์ที่มีความศรัทธาเลื่อมใส ต่อมาได้แพร่หลายออกไปสู่วงกว้าง จนทุกวันนี้มีการแสวงหากันมาก เนื่องจากมีประสบการณ์หลายด้าน เหรียญรุ่นนี้สร้างโดย บริษัท เจริญโภคถัณฑ์ จำกัด จำนวนหลักหมื่นเหรียญ มีทั้งเนื้อทองคำ เงิน นวโลหะ ทองแดงกะไหล่ ทองแดงผิวไฟ และทองแดงรมดำ…เหรียญอาแป๊ะโรงสี โง้วกิมโคย ในภาพนี้เป็นของ ฐกร บึงสว่าง กก.ผจก.สายวางแผนจัดการเพื่อการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิลเวลธ์ จำกัด…อาแป๊ะโรงสี โง้วกิมโคย เกิดที่ประเทศจีน ได้เข้ามาเมืองไทยตั้งแต่เด็กอายุประมาณ 10 ขวบ เมื่อโตขึ้นได้ทำงานรับจ้างทั่วไป และค้าขายข้าวเปลือก ต่อมาได้ร่วมหุ้นทำกิจการโรงสีข้าว ที่ปากคลองบางโพล่าง จ.ปทุมธานี เมื่ออายุประมาณ 22 ปี ได้สมรสกับ นางนวลศรี เอี่ยมเข่ง มีบุตรธิดาด้วยกัน 10 คน พร้อมทั้งได้ย้ายมาประกอบกิจการโรงสีไฟของตนเอง ที่ปากคลองเชียงราก เยื้องๆ กับวัดศาลเจ้า ชื่อว่า “โรงสีไฟทองศิริ” ท่านได้โอนสัญชาติไทย พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็น นายนที ทองศิริ กิจการโรงสีมั่นคงขึ้นตามลำดับ จนเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป เรียกท่านว่า “เถ้าแก่กิมโคย” หรือ “แป๊ะกิมโคย” ท่านได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2526 สิริรวมอายุได้ 86 ปี แม้ว่าท่านจะเป็นฆราวาส แต่ท่านก็มีความรู้ความสามารถในศาสตร์ “ฮวงจุ้ย” อย่างสูง และเชื่อกันว่าท่านมี “องค์” ประทับอยู่ ซึ่งเป็น “เจ้าพ่อปู่ของศาลเจ้าพ่อ” วัดศาลเจ้า นั่นเอง...ท่านมีเมตตาธรรมสูง ชอบช่วยเหลือคน และชอบทักทายชี้แนะให้ทุกคนประกอบแต่ความดี จนเป็นที่เคารพและศรัทธาของผู้คนทั่วไป