อมตพระกรุ เมืองชัยภูมิ: ประวัติเมืองชัยภูมิ

25 กุมภาพันธ์ 2562 ยอดผู้ชม 7178 ครั้ง

ประวัติเมืองชัยภูมิ

เนื่องจากดินแดนที่เป็นเมืองชัยภูมิในปัจจุบัน แต่เดิมเป็นดินแดนที่ขอมครอบครองอยู่ หรือเข้ามามีอิทธิพลอยู่ในเขตแดนนี้ในราวพุทธศาตวรรษที่ ๑๖๒๑๘ โยมีหลักฐานโบราณสถานปรางค์กู่สมัยขอมที่สร้างขึ้นด้วยศิลาแลงอยู่หลายแห่งเช่น “ปรางค์กู่” ในตัวเมืองชัยภูมิและปรางค์กู่ที่อำเภอบ้านแท่น ที่อยู่ห่างตัวเมืองชัยภูมิขึ้นไปทางเหนือประมาณ ๑๐๐ กิโลเมตร พงศาวดารได้กล่าวถึงเมืองชัยภูมิว่า เดิมเป็นเมืองสร้างอยู่ก่อนแล้วหลังจากที่อาณาจักรขอมหมดอำนาจลงไป ซึ่งเข้าว่าอาจจะเป็นเมืองหนึ่งที่เคยรุ่งเรืองในสมัยขอมและอาจมีการเชื่อมต่อถึงกันได้กับเมืองในแถบเทือกเขาดงพระยาเย็น เช่น เมืองเสมา เมืองโคราฆะปุระ ในท้องที่อำเภอสูงเนินปัจจุบัน ในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เมืองในที่ราบเทือกเขาแห่งนี้ เคยเป็นเมืองขึ้นของนครราชสีมามาก่อน และผู้คนที่เข้ามาอาศัยอยู่ ณ ที่ราบแถบนี้ ส่วนใหญ่ก็ล้วนแต่อพยพมาจากกรุงศรีสัตนาคนหุต (กรุงเวียงจันทร์) กับผู้ที่อพยพมาจากนครราชสีมาซึ่งส่วนนี้คงจะอพยพเข้ามาตั้งรากอยู่ก่อนแล้ว ครั้นถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น หรือในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาล ที่ ๒ หรือประมาณ ปี พุทธศักราช ๒๓๖๐ ได้มีบุรุษหนึ่ง นามว่า “ท้าวแล” ได้พาครอบครัวและสมัครพรรคพวกอพยพมาจากเวียงจันทน์ท้าวแลเป็นพี่เลี้ยงของราชบุตร (โย้) โอรสของเจ้าอนุวงค์กรุงเวียงจันทน์จนไม่อาจจะอยู่ร่วมกันได้ ท้าวแลเกรงจะเกิดราชภัยขึ้นกับตนและครอบครัวจึงได้พากันอพยพหนีข้ามแม่น้ำโขงมายังฝั่งไทยและเดินลึกมาเข้าหาที่ตั้งหลักแหล่ง เพื่อประกอบอาชีพและที่ตั้งถิ่นฐานทำมาหากินอย่างมั่นคงที่บ้านหนองน้ำขุ่น บ้านหนองอีจาน (ปัจจุบันบ้านหนองอีจานตั้งอยู่ในเขต อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา) ต่อมาท้าวแลได้นำพรรคพวกและไพร่พลเดินทางลึกเข้ามาจนถึงเขตเมืองชัยภูมิเก่า ที่ซึ่งเป็นเมืองในของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อปีพุทธศักราช ๒๓๖๒ คือ บ้านชีลอง หรือบ้านโนนน้ำอ้อม ซึ่งในขณะนั้นเป็นบ้านเก่าเมืองร้าง มีลักษณะที่เป็นที่ราบใหญ่ ล้อมไปด้วยน้ำ (ปัจจุบันอยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ ประมาณ ๖ กิโลเมตร)การเดินทางทางลึกเข้าไปในครั้งนั้น ได้มีผู้คนอพยพตามมาอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก จึงได้มีการจัดตั้งบ้านเรือนเพิ่มขึ้นอีก นับเป็นการสร้างบ้านแปงเมืองขึ้นเป็นครั้งแรก ดังปรากฏเป็นชื่อ บ้านแสนพัน (ต่อมากลายเป็นบ้านสัมพันธ์ในปัจจุบัน) ในขณะนั้น ท้าวแลได้พาผู้คนเดินทางเข้ามาหาถิ่นที่อยู่ใหม่มากขึ้น จนได้มีการสร้างเป็นหมู่บ้านถึง ๖ หมู่บ้าน คือ บ้านโนนน้ำอ้อม บ้านหลุบโพธิ์ บ้านกุดตุ้ม บ้านบ่อหลุบ บ้านโนนไผ่หญ้า และบ้านท่าเสี้ยว ถ้ากล่าวถึงวัตถุโบราณของเมืองชัยภูมิแล้ว ส่วนใหญ่จะรับอิทธิพลของขอมเป็นส่วนมาก อันได้แก่ พวกเทวรูป พระพุทธรูป เครื่องใช้ไม้สอยล้วนแล้วแต่เป็นของขอมทั้งสิ้น การค้นพบจะพบบริเวณปราสาทหินเก่าๆ ซึ่งมีอยู่ไม่น้อย อันได้แก่ ปรางค์กู่ ซึ่งสร้างในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ หรือประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๘ ภูพระ ภูเขียว คอนสวรรค์ เป็นต้น ส่วนพระเครื่องนั้นพบบ้าง แต่ไม่มาก ที่มีชื่อเสียง และโด่งดังในวงการพระเครื่อง ก็เห็นจะมีพระเครื่อง “กรุคอกควาย” เป็นพระสร้างในยุคขอมเรืองอำนาจประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๗ จัดเป็นพระเครื่องที่มีขนาดกำลังพอเหมาะที่จะพกติดตัวเลยทีเดียว

รูปปั้นเจ้าพ่อพญาแล ประดิษฐานอยู่ในศาล เจ้าพ่อพญาแล จ.ชัยภูมิ ผู้สร้างเมืองชัยภูมิ